นิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกทรายขาว
โครงการจัดที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินทรายขาว ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๓๑๗ สายสระแก้ว –
จันทบุรี ชุมชนที่ ๗, ๘ และ ๙ เทศบาลตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว
จังหวัดจันทบุรี ห่างจากจังหวัดจันทบุรี ประมาณ
๖๐ กิโลเมตร และกรุงเทพมหานคร ประมาณ
๓๘๐ กิโลเมตร
ในปี ๒๕๒๓
บริษัทวังน้ำฝน จำกัด และธนาคารกรุงเทพ จำกัด
ได้ร่วมกันทำโครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมทรายขาว
จังหวัดจันทบุรี โดยกำหนดให้สมาชิกโครงการเลี้ยงสุกร เป็นอาชีพหลัก
และได้รับทหาร-ผ่านศึกเข้าเป็นสมาชิกส่วนหนึ่ง ประกอบกับในขณะนั้น อผศ. กำลังดำเนินการโครงการจัดตั้งนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกพิการในเขตชานเมือง แต่มีอุปสรรคในการจัดหาที่ดิน บริษัทวังน้ำฝนฯ และธนาคารกรุงเทพฯจึงเสนอขอเข้าร่วมโครงการด้วย และได้มีการปรับปรุงแก้ไขโครงการให้เป็นโครงการร่วม ๓
ฝ่าย ระหว่าง อผศ., บริษัทวังน้ำฝนฯ และธนาคารกรุงเทพฯ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น โครงการนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกพิการ ซึ่งสภาทหารผ่านศึกได้อนุมัติโครงการในการประชุม
ครั้งที่ ๔/๒๕๒๔ เมื่อ ๒๘
ก.ย.๒๔
ในการเข้าร่วมดำเนินการตามโครงการฯ ทั้ง ๓ ฝ่าย ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงโดยมีกำหนดระยะเวลาดำเนินงาน ๑๐
ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๒๕
สิ้นสุดในปีงบประมาณ ๒๕๓๔ และแบ่งหน้าที่รับผิดชอบโดย อผศ.
เป็นผู้จัดส่งทหารผ่านศึกเข้าเป็นสมาชิก
ควบคุมดูแลด้านสวัสดิการของสมาชิกบริษัทวังน้ำฝนฯ เป็นผู้ดำเนินงาน และบริหารโครงการทั้งทางด้านการผลิตและการตลาดสุกร
และธนาคารกรุงเทพฯ เป็นผู้อำนวยสินเชื่อการลงทุนให้แก่โครงการ
ในปี ๒๕๒๕ ได้เริ่มดำเนินการโครงการแรก คือ
โครงการนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกพิการ ลาดตะเคียน จังหวัดปราจีนบุรี และต่อมาในปี ๒๕๒๗
ในการประชุมสภาทหารผ่านศึก
ครั้งที่ ๒/๒๕๒๗ เมื่อ ๒๙ มิ.ย.๒๗ ได้อนุมัติหลักการให้โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมทรายขาวเข้าร่วมอยู่ในโครงการนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกพิการ
จากการดำเนินงานตามโครงการร่วม
๓ ฝ่าย ปรากฏว่า
บริษัทวังน้ำฝนฯ ประสบปัญหาด้านการบริหารโครงการเนื่องจากเกิดภาวะราคาสุกรตกต่ำติดต่อกันเป็นระยะเวลาเกือบ ๕
ปี ทำให้การผลิตสุกรประสบกับภาวะขาดทุนไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ธนาคารกรุงเทพฯ
ได้ตามกำหนด จนถึงปี ๒๕๓๑
โครงการร่วม ๓ ฝ่าย
ทั้งสองแห่งมีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารกรุงเทพฯ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น ๖๗๓
ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพฯ จึงฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทวังน้ำฝนฯ ในฐานะผู้ค้ำประกันเพื่อยุติความเสียหาย แต่ในการนี้
อผศ. ได้ประสานกับธนาคารกรุงเทพฯ
ขอให้เข้าบริหารโครงการแทนเป็นการชั่วคราวในระหว่างดำเนินคดี เพื่อให้สมาชิกสามารถประกอบอาชีพมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเงื่อนไขเดิม
อย่างไรก็ตาม การฟ้องร้องดำเนินคดีดังกล่าว เป็นผลทำให้การดำเนินงานโครงการร่วม ๓ ฝ่ายหยุดชะงักลง ทำให้สมาชิกไม่สามารถประกอบอาชีพให้มีรายได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งเกิดความไม่มั่นใจในอนาคตของตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะการได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน และทรัพย์สินที่กำหนดไว้ตามโครงการเดิมเพราะจำเป็นต้องรอผลของการดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งต้องใช้เวลานานนับสิบปี ดังนั้น
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว
และได้ข้อยุติ ดังนี้
-
ต้องยกเลิกโครงการร่วม
๓ ฝ่าย ทั้งสองแห่ง
- ธนาคารกรุงเทพฯ ต้องยกเลิกหนี้สินทั้งหมด ที่สมาชิกทุกคนมีอยู่กับธนาคารกรุงเทพฯ
ตามโครงการร่วม ๓ ฝ่าย
โดยสิ้นเชิงและไม่ติดใจเอาความใด ๆ อีกต่อไป
-
ธนาคารกรุงเทพฯ ต้องจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่สมาชิกทุกคนในวงเงินที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกัน
พิจารณาเห็นชอบแล้ว (โดยธนาคารกรุงเทพฯ
จ่ายให้รายละ ๑๕๐,๐๐๐.- บาท และ อผศ.
สมทบช่วยเหลือให้อีกรายละ
๕๐,๐๐๐.- บาท รวมเป็น ๒๐๐,๐๐๐.- บาท ต่อราย)
-
สมาชิกทุกคนต้องลงนามในหนังสือมอบอำนาจ ให้ทนายความไปทำการประนีประนอมยอมความ ในศาลเพื่อให้คดีความต่างๆ ยุติลงโดยสิ้นเชิง
เนื่องจากการยกเลิกโครงการร่วม
๓
ฝ่าย ยังมีสมาชิกส่วนหนึ่งประสงค์จะอยู่อาศัยและประกอบอาชีพ ในพื้นที่เดิมต่อไป อผศ. จึงได้พิจารณารับโอนโครงการมาดำเนินการเอง และเห็นว่าโครงการนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกพิการทรายขาว มีความเหมาะสมที่จะนำมาจัดทำเป็นโครงการใหม่ เพื่อรองรับสมาชิกโครงการ ร่วม
๓ ฝ่ายเดิม ที่เป็นทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ
ในการประชุมสภาทหารผ่านศึก
ครั้งที่ ๑/๒๕๓๕ เมื่อ ๒ มี.ค.๓๕
อนุมัติให้ อผศ. ซื้อที่ดินและสิ่งก่อสร้างของโครงการฯ
ทรายขาว จากธนาคารกรุงเทพ จำกัด
เนื้อที่ประมาณ ๑,๑๑๕ ไร่ ๒
งาน ๖๐ ตารางวา
ในราคา ๑๐๐ ล้านบาท
และให้ยุบเลิกโครงการร่วม ๓ ฝ่าย
รวมทั้งอนุมัติหลักการ ดำเนินการตาม “โครงการจัดที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินทรายขาว” โดยส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสุกรเป็นหลักโดยให้ร่วมการงานกับบริษัทเอกชนที่มีความชำนาญ ประสบการณ์สูง
และเป็นที่เชื่อถือโดยทั่วไป
ในการนี้ อผศ.
จึงได้ร่วมการงานกับบริษัทพันธุ์สุกรไทย - เดนมาร์ค จำกัด (มหาชน) โดยได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมดำเนินการส่งเสริมการเลี้ยงสุกรขึ้น เมื่อ
๗ ก.พ.๓๗ ระยะเวลา
๒๕ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๓๗ - ๒๕๖๑
ในการประชุมสภาทหารผ่านศึก
ครั้งที่ ๒/๒๕๔๑ เมื่อ ๓
ก.ค.๔๑
อนุมัติให้ อผศ. ปรับปรุงแก้ไขโครงการฯ ทรายขาว
รวมทั้งให้กรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่สมาชิกโครงการฯ
ทรายขาว ให้กระทำ การโดยวิธีเช่าซื้อ ในราคาไร่ละ
๑๐๐,๐๐๐.- บาท
และกำหนดระยะเวลาในการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อโดยผ่อนชำระเป็นงวดๆ ละ
ไม่น้อยกว่า ๑,๕๐๐.- บาท ภายในกำหนดระยะเวลา ๒๕
ปี
การยกเลิกการร่วมการงานกับบริษัทพันธุ์สุกรไทย
–
เดนมาร์ค จำกัด (มหาชน)
เมื่อ
๑๖ ก.พ.๕๐ บริษัทพันธุ์สุกรไทย - เดนมาร์ค
จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า จากการประกอบกิจการที่ผ่านมาได้ประสบปัญหาการขาดทุนและมีปัญหาด้านการเงินเป็นอย่างมาก จนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องดำเนินคดี ต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อปี ๒๕๔๘
และในการดำเนินคดีบริษัทพันธุ์สุกรไทยฯ ได้ยื่นเงื่อนไขขอฟื้นฟูกิจการ ต่อศาล
และศาลได้มีคำสั่งรับแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อ ๒๗ มิ.ย.๔๙
ต่อมา บริษัทพันธุ์สุกรไทยฯ ในฐานะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการอยู่ระหว่างการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ยื่น ขอไว้ต่อศาล
บริษัทพันธุ์สุกรไทยฯ จึงขอยุติการร่วมดำเนินงานส่งเสริมการเลี้ยงสุกรกับ อผศ. โดยขอยกเลิกบันทึกข้อตกลงร่วมดำเนินการส่งเสริมการเลี้ยงสุกรแก่สมาชิกโครงการฯ
ทรายขาว
จากการขอยกเลิกบันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าว
อผศ. กับบริษัทพันธุ์สุกรไทยฯ ได้มีการเจรจาต่อรองกันจนได้ข้อยุติว่าบริษัทพันธุ์สุกรไทยฯ ตกลงจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่สมาชิกโครงการฯ จำนวน
๑๐๑ ครอบครัว รวมเป็นเงิน
๘,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (แปดล้านบาทถ้วน) โดยแบ่งจ่ายเป็น ๕ งวด ๆ ละ ๑,๖๐๐,๐๐๐.- บาท (หนึ่งล้านหกแสนบาทถ้วน) เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือน เม.ย. - ส.ค.๕๐
อีกทั้งสมาชิกโครงการฯ ทรายขาว
ขาดรายได้ประจำจากค่าตอบแทนในการเลี้ยงสุกร ทำให้มีผลกระทบโดยตรง
ไม่สามารถส่งชำระค่าเช่าซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสัญญาที่ทำไว้กับ อผศ. เพื่อเป็นการสนับสนุน ให้สมาชิกสามารถประกอบอาชีพใหม่ตามความถนัดได้อย่างทั่วถึง อผศ.
จึงสนับสนุนเงินให้กับสมาชิก จำนวน
๑๐๑ ครอบครัว รวมเป็นเงิน
๘,๐๐๐,๐๐๐.- บาท
ในการประชุมสภาทหารผ่านศึก
ครั้งที่ ๓/๒๕๕๐
เมื่อ ๑๙ ก.ค.๕๐ มีมติให้ดำเนินการตามที่
อผศ. นำเสนอสภาทหารผ่านศึก เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขโครงการ ดังนี้
๑. พิจารณาการให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและการประกอบอาชีพ
๒. ให้ อผศ. มอบโอนถนนให้ส่วนราชการตามความเหมาะสม เพื่อให้ฝ่ายบ้านเมืองสามารถ เข้ามาพัฒนาให้เกิดความเจริญต่อไป
๓.
อนุมัติให้ใช้เงินทุนสะสม
เพื่อจ่ายเป็นเงินทุนในการประกอบอาชีพตามความถนัดของสมาชิก จำนวน ๑๐๑ ครอบครัว
ต่อมา ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโอนและจำหน่ายบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของ อผศ. เมื่อ ๑๗ ก.พ.๕๓ โดย พล.อ.พิชัย ฉินนะโสต เป็นประธาน
คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้ว
มีมติอนุมัติ ให้จำหน่ายทรัพย์สินของ อผศ.
โดยการโอนถนนบางส่วนภายในโครงการฯ ทรายขาว
อำเภอสอยดาว จว.จันทบุรี จำนวน ๗ สาย
ระยะทางประมาณ ๙,๐๒๐ เมตร คิดเป็นพื้นที่ประมาณ ๘๑ ไร่ ๑ งาน ๔๖.๘ ตารางวา
เป็นเงินประมาณ ๘,๗๒๒,๓๔๐.๕๕ บาท (แปดล้านเจ็ดแสนสองหมื่นสองพันสามร้อยสี่สิบบาทห้าสิบห้าสตางค์) ให้แก่เทศบาลตำบลทรายขาว และได้รายงานสภาทหารผ่านศึกรับทราบแล้ว ในการประชุมสภาทหารผ่านศึก ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ เมื่อ
๒๙ มี.ค.๕๓
ในการประชุมสภาทหารผ่านศึก ครั้งที่
๔/๒๕๕๗ เมื่อ ๒๖
ธ.ค.๕๗ ให้โครงการฯ ทรายขาวเปลี่ยนชื่อหน่วยจาก
โครงการจัดที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินทรายขาว เป็น
นิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกทรายขาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น