การขอรับการสงเคราะห์
ผู้ที่จะขอรับการสงเคราะห์ด้านการเกษตรจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
ต้องเขียนคำร้องขอความช่วยเหลือตามแบบ อผศ. ๑
พร้อมทั้งแนบหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้านบัตรประจำตัวประชาชน
และใบสำคัญการสมรส โดยสามารถยื่นคำร้องได้ที่ กองนิคมเกษตรกรรม ฝ่ายอาชีวสงเคราะห์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก หรือที่สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขต
คุณสมบัติผู้ขอรับการสงเคราะห์
ผู้ที่ประสงค์จะขอรับการสงเคราะห์ด้านการเกษตร จะต้องเป็นทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ
และมีคุณสมบัติ ดังนี้
๑) มีสัญชาติไทย
๒)
บรรลุนิติภาวะ และทำการสมรสแล้ว แต่อายุไม่เกิน ๕๐ ปี หรือมีอายุเกิน๕๐ปี
แต่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
พิจารณาเห็นเป็นการสมควร
๓)
มีร่างกายสมบูรณ์ ไม่พิการทุพลภาพ
หรือวิกลจริต หรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคติดต่ออันน่ารังเกียจ ในกรณีพิการทุพลภาพ
อผศ. อาจพิจารณายกเว้นได้ตามที่เห็นสมควร
๔)
มีความขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ
๕)
ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี หรือหนี้สินล้นพ้นตัว
หรือมีพฤติกรรมที่อาจเป็นภัยต่อสังคม
๖) ไม่มีที่ดินของตนเอง หรือมีแต่จำนวนน้อยไม่พอประกอบอาชีพ
๗)
ไม่เคยเป็นสมาชิกของนิคมอื่นใดมาก่อน
หลักเกณฑ์การคัดเลือก
องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกได้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ที่ประสงค์จะขอรับการสงเคราะห์ด้านการเกษตร
ดังนี้
๑) ผู้ขอรับการสงเคราะห์ ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน
ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาทหารผ่านศึก ว่าด้วยการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ พ.ศ. ๒๕๒๒
๒) ผู้ขอรับการสงเคราะห์จะต้องไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง
หรือมีแต่ไม่เกิน ๑๐ ไร่ และไม่เพียงพอแก่การยังชีพ
๓) ผู้ขอรับการสงเคราะห์ที่มีอายุเกินกว่า ๕๐ ปี จะต้องมีร่างกายสมบูรณ์ หรือมีประสบการณ์ด้านการเกษตร กรณีพิการทุพลภาพจะต้องมีบุคคลในครอบครัวช่วยประกอบอาชีพด้านการเกษตรด้วย
๔)
พิจารณาสภาพครอบครัวของผู้ขอรับการสงเคราะห์ในด้านกำลังฐานะและอื่น ๆ
๕) ผู้ขอรับการสงเคราะห์ที่มีฐานะยากจน และมีความเดือดร้อนในเรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย จะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
หน้าที่ของสมาชิก สมาชิกนิคมมีหน้าที่
ดังต่อไปนี้
๑) ยินยอมเข้ารับการฝึกอบรมเป็นครั้งคราว เพื่อเป็นกำลังเกี่ยวกับการป้องกัน หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคง
หรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักร ตามคำสั่งขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
๒) ประพฤติตนและปฏิบัติตนให้เรียบร้อย
มีวัฒนธรรมและศีลธรรมอันดี
๓)
สร้างบ้านพักอาศัยตามแบบและแผนผังที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกกำหนด
๔) ปฏิบัติตามคำแนะนำของหัวหน้านิคม เกี่ยวกับการรักษาความการประกอบอาชีพการศึกษา การป้องกัน
รักษาโรค
การสุขาภิบาล และอื่น ๆ
๕) ช่วยเหลือร่วมแรงทำการปรับปรุงบำรุงที่ดิน หรือปฏิบัติงานอื่น ๆ อันจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่สังคม
๖)
ไม่รับบุคคลผู้มีความประพฤติอันน่าจะก่อกวนความสงบเข้ามาอยู่ในที่ดินที่รับมอบ
๗) ต้องควบคุมดูแลรับผิดชอบผู้อยู่ในปกครองให้เป็นผู้มีระเบียบ
วินัยอันดี
๘) ต้องมีความขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ ไม่ปล่อยให้ที่ดินรกร้างว่างเปล่าทรุดโทรม โดยไม่ได้ทำ
ประโยชน์ตามสมควร
๙) ต้องสามัคคี เอื้อเฟื้อ
เผื่อแผ่ และเสียสละ เพื่อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
๑๐)
ไม่มอบหรือโอนการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน หรือบ้านพักอาศัยที่ได้รับมอบโอนให้แก่ผู้อื่น
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
หรือละเลยให้บุคคลอื่นเข้ามาใช้ที่ดินที่ได้รับมอบ
๑๑) ถ้ามีหนี้สินเกี่ยวกับกิจการของนิคม จะต้องชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดเว้นแต่จะได้รับการผ่อนผันจาก
อผศ.
๑๒) ไม่กระทำใด ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่นิคม
หรือเสียหายแก่ประโยชน์ส่วนรวมของสมาชิก
๑๓) ไม่กระทำใด ๆ อันเป็นการชักจูงหรือโน้มน้าวประชาชน
จะโดยตรงหรือโดยอ้อมก็ตามเพื่อก่อกวนความสงบเรียบร้อย หรือบ่อนทำลายความมั่นคง หรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักร
๑๔) ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับสภาทหารผ่านศึก หรือระเบียบ หรือคำสั่งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
การพ้นสภาพการเป็นสมาชิก
สมาชิกหมดสิทธิการเป็นสมาชิกในกรณีอย่างหนึ่งอย่างใด
ต่อไปนี้
๑) ตาย
๒) ลาออก
๓) ถูกถอนสิทธิการเป็นสมาชิก
การถอนสิทธิสมาชิก องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกอาจถอนสิทธิการเป็นสมาชิกและให้ออกจาก ที่ดินในกรณีประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ดังต่อไปนี้
๑) มั่วสุมกันเป็นซ่องโจร หรือกระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ
๒) ทำร้ายเจ้าหน้าที่นิคมหรือโครงการ ผู้ดูแล หรือสมาชิกด้วยกันจนบาดเจ็บสาหัส หรือถึงแก่ความตาย
๓) เสพหรือค้ายาเสพติด
๔)
มั่วสุมเล่นการพนันเป็นนิจสินจนเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่นิคมหรือโครงการเป็นส่วนร่วม
๕) กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของทหารผ่านศึก
นิคม หรือองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกพิจารณาเห็นว่าเป็นการประพฤติชั่ว
อย่างร้ายแรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น